บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 10
วิชาการจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ
แจ่มถิ่น
วัน/เดือน/ปี 9 มีนาคม พ.ศ. 2558
เวลาเรียน 12.20 เวลาเข้าสอน 12.20 เวลาเข้าเรียน 12.20 เวลาเลิกเรียน 15.00
ต้นชั่วโมงอาจารย์ได้แนะนำและเล่าถึงรุ่นพี่เรื่องการสอบบรรจุครู
เนื้อหา 3.ดูวีดีโอ ผลิบานผ่านมือครู..(จังหวะชีวิต)
ความรู้ที่ได้รับ กิจกรรมในVDOสามารถนำไปใช้ได้ทั้งกับเด็กปกติและเด็กพิเศษในเวลาไปสอนจริงการเป็นครูอย่าไปดูถูกเด็กว่าทำไม่ได้
เน้นการสอนโดยบังเอิญหรือบอกบท ฯลฯ
การสอนควรเริ่มจากกิจกรรมง่ายๆเมื่อเด็กทำได้จึงค่อยเพิ่มความยากขึ้นและครูจึงค่อยๆปรับกิจกรรมให้สอดคล้องกับเด็ก
กิจกรรมที่ใช้กับเด็กในVDO
1.กิจกรรมผึ้งย้ายรัง ฝึกทักษะการฟัง
2.โยนรับส่งบอลและก้าวรับส่ง
ช่วยเรื่องประสานสัมพันธ์กล้ามเนื้อมือและตาและการกะระยะ
3.กระโดดกับห่วง ฝึกกล้ามเนื้อขา
4.การใช้เพลงเคลื่อนไหว
ฝึกทักษะการฟัง
5.กิจกรรมหยิบ ยก ส่ง ฝึกสมาธิและการเคลื่อนไหว
6.กิจกรรมหอยโข่ง ฝึกทักษะการฟังและการเคลื่อนไหว
7.กิจกรรมฮูลาฮูป ฝึกการใช้กล้ามเนื้อในการเคลื่อนไหว
8.กิจกรรมปรบมือพร้อมสียงดนตรี
ฝึกการฟัง
สิ่งที่เด็กได้รับ
- เด็กจะเกิดความภูมิใจเมื่อทำได้ จะกล้าแสดงออก และแข็งแรง
- การใช้ดนตรีช่วยฝึกความสมดุลของร่างกาย
- ดนตรีช่วยเร้าความสนใจ ความสนุกสนาน ด้านอารมณ์ของเด็ก
- ทำให้เด็กรู้จักการรอคอย การฟังและการเล่นร่วมกับเพื่อน
เนื้อหา 4. เรียนเรื่อง การส่งเสริมทักษะต่างๆของเด็กพิเศษ
ความรู้ที่ได้รับ ทักษะทางภาษา
2.ทักษะทางภาษา ครูสามารถส่งเสริมภาษาให้เด็กปฐมวัยได้โดยแปะข้อหรือความตัวหนังสือต่างๆไว้ภายในห้องให้เด็กเกิดการซึมซับ
และครูต้องเขียนตัวหนังสือหัวกลมตัวเหลี่ยม
การวัดความสามารถทางภาษาเด็กพิเศษ
สามารถวัดได้จากสิ่งต่อไปนี้
- เข้าใจสิ่งที่ผู้อื่นพูดไหม - ตอบสนองเมื่อมีคนพูดด้วยไหม
- ถามหาสิ่งต่างๆไหม - บอกเล่าเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นไหม
- ใช้คำศัพท์ของตนเองกับเด็กคนอื่นไหม
การออกเสียงพูดไม่ชัด
- การพูดตกหล่น
เช่น พูดแต่พยางค์หลังในเด็กบกพร่องทางภาษา
- การใช้เสียงหนึ่งแทนอีกเสียงหนึ่ง
- ติดอ่าง
การปฏิบัติของครูหรือผู้ใหญ่ต่อเด็กพิเศษ
- ไม่สนใจการพูดซ้ำหรือการออกเสียงไม่ชัด
อย่าไปเพ่งเล็งมากนัก
- ห้ามบอกเด็กว่าให้พูด
ช้าๆ ตามสบาย หรือ คิดก่อนค่อยพูด
- อย่าขัดจังหวะขณะที่เด็กพูด
- อย่าเปลี่ยนการใช้มือข้างที่ถนัดของเด็ก
- ไม่เปรียบเทียบการพูดของเด็กกับเด็กคนอื่น
- เด็กที่พูดไม่ชัดอาจเป็นเพราะการได้ยิน
ทักษะพื้นฐานทางภาษา ที่จำเป็นและสำคัญคือเด็กต้องรับรู้และแสดงออก
- ทักษะการรับรู้ทางภาษา
- การแสดงออกทางภาษา
- การสื่อความหมายโดยไม่ใช้คำพูด
ในเด็กพิเศษจะพบเยอะชอบใช้ท่าทาง ครูต้องเรียกชื่อเด็กบ่อยๆ
ความรับผิดชอบของครูปฐมวัย
- ควรรับรู้ว่าภาษาต้องมาก่อนการแสดงออกทางภาษา
ซึ่งเป็นไปตามลำดับเหมือนการฟัง พูด อ่าน เขียน
- ต้องรู้ว่าเด็กจะมีพัฒนาการทางภาษา เช่น เสียงอ้อแอ้
ก่อนที่จะพูดเป็นคำ และครูควรให้เวลาเด็กในการพูด
- คอยให้เด็กตอบ และครูคอยชี้แนะเมื่อจำเป็น
- เป็นผู้ฟังที่ดีและโต้ตอบอย่างฉับไวและครูไม่ควรพูดมากเกินไป
เพราะเด็กไม่ได้เรียนรู้ภาษาจากการฟังเพียงอย่างเดียว
- ให้เด็กได้มีโอกาสทำกิจกรรมกลุ่ม
เพื่อมีแบบอย่างจากเพื่อน
- กระตุ้นให้เด็กบอกความต้องการของตนเอง
โดยครูไม่คาดการณืล่วงหน้า
- เน้นวิธีสื่อความหมายมากกว่าการพูด
- ใช้คำถามปลายเปิด
- เด็กพิเศษยิ่งรับรู้ได้มากเท่าไหร่
ยิ่งสื่อสารได้มากเท่านั้น
การสอนตามเหตุการณ์(Incidental Teaching) เป็นการสอนที่ครูยกสถานการณ์ขณะนั้นขึ้นมา คือ
ตอนเมื่อเด็กต้องการให้ช่วยเหลือ โดยใช้วิธีบอกบท
โดยพูดชี้แนะให้เด็กตอบสนองกลับ
ตัวอย่าง: สถานการณ์ เด็กกำลังผูกผ้ากันเปื้อน
1.ครูเดินเข้าไปหาแล้วพูดว่า
หนูกำลังผูกผ้ากันเปื้อนอยู่ใช่ไหม..
2.ลองพูดตามครูก่อนซิ ครูถึงจะผูกให้ ลองพูดตามครู >ผ้ากันเปื้อน<
การปฏิบัติ: เด็กอาจพูดหรือไม่พูด ครูก็ควรผูกให้เด็ก และทำซ้ำๆเป็นประจำ
หรือประคองมือเด็กทำพร้อมๆกับครูด้วย
เนื้อหา 5.กิจกรรมศิลปะและดนตรีบำบัดเด็กพิเศษ
เนื้อหา 5.กิจกรรมศิลปะและดนตรีบำบัดเด็กพิเศษ
บรรยากาศการสอนและการทำกิจกรรม |
ผลงานคู่ดิฉันค่ะ จากภาพทำให้เห็นถึงความความละเอียดและเป็นคนที่คิดมาก |
ขั้นตอนการสอน (ศิลปะลากเส้นตรง)
1. ให้เด็กจับคู่ 2 คน
จากนั้นแจกกระดาษและให้มาหยิบสีเทียนคนละแท่ง
2.
เปิดเสียงดนตรีบำบัดเบาๆและให้เด็กเริ่มลากเส้นตรงพร้อมๆกันไปตามจังหวะเพลง
3. ให้มองช่องในเส้นที่ตัดกันและระบายสีในช่องนั้นให้หมด
4. จากนั้นให้นำผลงานมาวางโชว์ตามที่ที่จัดไว้และบรรยายภาพ
ความรู้ที่ได้รับ งานครั้งนี้จะยากกว่าครั้งที่แล้ว
เพราะเด็กต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ที่เยอะกว่า กิจกรรมนี้เป็นผลงานที่ชอบให้เด็กออทิสติกทำ
สามรถดุจิตใจเด็กได้ เรียบง่าย คิดเยอะ มั่นใจ หรือยุ่งเหยิง
สิ่งที่เด็กได้รับ
- ฝึกสมาธิ - มิติสัมพันธ์การลงสี - พื้นที่ของช่อง - สังคม การมีปฏิสัมพันธ์
- ภาษา - การแสดงออกทางอารมณ์ - ความคิดสร้างสรรค์ในการลงสี
การนำไปประยุกต์ใช้
1. นำคำสอนและคำแนะนำของอาจารย์ไปปรับใช้เมื่อเจอสถานการณ์จริง
2. ฝึกร้องเพลงให้ถูกต้องและจำให้ได้เพื่อนำไปใช้ในอนาคต
3. นำกิจกรรมไปบำบัดเด็กออทิสติก
หรือ นำไปใช้กับเด็กปกติได้
4. ต้องเข้าใจพฤติกรรมเด็กว่าเด็กต้องการอะไรเพื่อสามรถบอกบทได้ถูกต้องและถูกสถานการณ์
Postest
การประเมินผล
ประเมินตนเอง: รู้สึกมีแรงบันดาลใจที่ต้นชั่วโมงอาจารย์ได้พูดถึงเรื่องการสอบบรรจุ
ก็ทำให้คิดวางแผนในชีวิตว่าเราจะทำอะไรเล่นๆไม่ได้แล้ว
ซึ่งคิดว่าก็ยากพอควรและมีบางวิชาซึ่งไม่เก่งและไม่ถนัดมากๆเลยกลัวการสอบภาษาอังกฤษที่สุดก็ต้องพยายามมากกว่าเดิม
มีความรู้สึกอยากทำให้พ่อแม่ภูมิใจให้มากที่สุดในวันนั้น
และอยากมีโอกาสฟังพี่ๆที่จบไปแล้วมาเล่าประสบการณ์ต่างๆให้ฟังเพื่อเป็นแนวทางมากๆค่ะ
/ การเรียนวันนี้ตอนทำกิจกรรมก็ตั้งใจแต่ก็มีง่วงๆอยู่บ้าง
ตอนร้องเพลงก็รู้สึกว่าต้องไปฝึกมาอีกสำหรับเพลงชุดนี้ เพราะยังจำทำนองไม่ได้
ใส่ทำนองตัวเองไปเฉย 55555
ประเมินเพื่อน: เพื่อนๆตั้งใจฟังและสนใจเรื่องที่อาจารย์เล่าบางคนก็มีความรู้เกี่ยวกับการสอบบรรจุซึ่งพ่อแม่อาจรับราชการด้านนี้อยู่แล้ว
ก่อนเข้าเนื้อหาเพื่อนๆก็สนุกสนานกับการทำกิจกรรม ได้เห็นคำตอบที่หลากหลาย
ทำให้รู้จักเพื่อนๆแต่ละคนมากขึ้น และเมื่ออาจารย์ถามเรื่องเกี่ยวกับวิชาการแต่ละคนถ้ายังไม่แน่ใจ
ก้มหน้าบ้าง หลบตาบ้าง 5555 เป็นเรื่องปกติค่ะ วันนี้ก็มีเพื่อนคุยกันเป็นช่วงๆค่อนข้างเสียงกังขณะอาจารย์สอน
/สุดท้ายสำหรับกิจกรรมบำบัดเด็กพิเศษ
ก็ทำให้รู้จักตัวตนของเพื่อนเพิ่มมากขึ้น บางคนก็มีผลงานที่ละเอียดอ่อน
แต่ก็มีบางคนผลงานคล้ายเด็กออทิสติกจริงๆ
ประเมินอาจารย์: อาจารย์แต่งกายสุภาพเรียบร้อย
แต่หนูก็สงสัยอยู่ว่าทำไมวันนี้ใส่สีชมพูคะ555(สงสัยไม่เกี่ยวกับเรื่องเรียนอีกและ)
/ อาจารย์เตรียมกิจกรรมมาให้ทำตลอดรู้สึกผ่อนคลายดีค่ะ
แล้วก็มีการปล่อยมุกทำให้สนุกสนาน อีกทั้งยังมีการประเมินนักศึกษาแต่ละกลุ่ม
พูดให้กำลังใจ ถามไถ่เรื่องอื่นๆ และเล่าเรื่องที่ทำให้มีแรงบันดาลใจ ขณะสอนเมื่อเพื่อนๆคุยก็จะมีเทคนิคคือวางไมค์แล้วเดินไปใกล้ๆ
ทำหน้าดุเล็กน้อย อิอิ ก็ทำให้เพื่อนเกรงไปสักพัก (แล้วก็เริ่มใหม่)- -
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น